ปัญหาหลั่งเร็วปัญหาใหญ่ระดับชาติของคุณผู้ชาย

ปัญหาระดับชาติของผู้ชายหลาย ๆ ท่าน คงจะหนีไม่พ้น หลั่งเร็ว อย่างแน่นอน หรืออาการทางแพทย์จะเรียกว่า Premature Ejaculation เชื่อว่าหากผู้ชายท่านไหนที่พบเจอกับปัญหานี้จะต้องหนักใจกันทั้งสิ้น ไม่ว่ากับตนเองหรือกับคู่ครองก็ตาม แต่จะให้ไปปรึกษากับคนอื่น ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าอายไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นปัญหาการหลั่งเร็วจะสามารถแก้ไขได้ เพียงแต่คุณผู้ชายจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาจากแพทย์นั่นเอง

อาการแบบไหนถึงจะเรียกว่า หลั่งเร็ว

สำหรับอาการหลั่งเร็วของผู้ชายจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่ ภาวะหลั่งเร็วตั้งแต่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือหลั่งเร็วทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และภาวะหลั่งเร็วในภายหลัง จากที่เคยหลั่งได้อย่างปกติ ซึ่งอาการหลัก ๆ ของสองรูปแบบนี้ จะมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • หลังสอดใส่อวัยวะเพศ จะไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่สามารถชะลอการหลั่งได้เกินกว่า 1 นาที
  • หลั่งก่อนที่จะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปด้านในช่องคลอด

สาเหตุของอาการหลั่งเร็ว

  • ภาวะทางด้านร่างกาย สำหรับความผิดปกติทางด้านร่างกายอาจจะเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของฮอร์โมน ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง หรือต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การอักเสบ และการติดเชื้อของท่อปัสสาวะ หรือต่อลูกหมาก การถ่ายทอดทางพันธุกรรม และการใช้ยา หรือสารเสพติด
  • ภาวะทางด้านจิตใจ อาจจะเกิดจากมีปัจจัยบางสิ่งที่ก่อให้เกิดการกระทบต่อจิตใจ จนส่งผลให้ผู้ชายหลั่งเร็วกว่าปกติ อย่างเช่น เกิดความเครียด มีความวิตกกังวล อยู่ในภาวะซึมเศร้า มีปัญหาทางด้านความสัมพันธ์ มีประสบการณ์ทางเพศก่อนวัยอันควร หรือได้รับการทารุณกรรมทางเพศ เป็นต้น

วิธีการรักษาอาการ หลั่งเร็ว

สำหรับอาการหลั่งเร็วถือเป็นอาการที่สามารถรักษาได้ ในเบื้องต้นจะสามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก่อนมีเพศสัมพันธ์ 1 – 2 ชั่วโมง การเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่มีความหนา เพื่อไม่ให้อวัยวะเพศไวต่อความรู้สึกจากผิวสัมผัสมากเกินไป ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ให้หยุดพักและนึกถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หยุดทำกิจกรรมทางเพศและหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพยายามชะลอการหลั่งในขณะใกล้หลั่ง แล้วค่อยเริ่มทำกิจกรรมใหม่อีกครั้ง รวมทั้งวิธีการบริหารอุ้งเชิงกราน ซึ่งจะถือเป็นบริเวณที่ส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมการหลั่งได้

โดยวิธีการบริหารคือจะต้องหากล้ามเนื้อที่ต้องการบริหารให้เจอเสียก่อน อย่างเช่น การหยุดปัสสาวะกลางคันและเกร็งกล้ามเนื้อ เมื่อพบกล้ามเนื้อที่ต้องการบริหารแล้ว ให้เกร็งกล้ามเนื้อส่วนนั้นและคลายตัวออก ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน แต่หากคุณไม่สามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง จะต้องเข้าพบแพทย์ เพื่อที่จะเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยส่วนใหญ่หากเข้าพบแพทย์แล้ว แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ และต่อไปนี้คือกลุ่มตัวอย่างของยาตามอาการ

  • ยาชาเฉพาะที่ ยาชาประเภทนี้ จะเป็นยาชาในรูปแบบของครีม อย่างเช่น เบนโซเคน ลิโดเคน และไพรโลเคน ซึ่งจะให้คุณใช้ยาชาทาบริเวณอวัยวะเพศก่อนการมีเพศสัมพันธ์ 10 – 15 นาที เพื่อเป็นการลดความรู้สึก และชะลอการหลั่งเร็ว แต่ต้องบอกก่อนว่ายาชาจะมีผลกระทบต่อคู่นอนด้วยเช่นกัน
  • ยาต้านเศร้า สำหรับยาประเภทนี้จะใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ผลข้างเคียงของยาคือชะลอการหลั่ง หรือชะลอการถึงจุดสุดยอดในขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะเท่ากับว่าช่วยชะลอการหลั่งเร็วของอสุจิในเพศชายด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยาประเภท พร็อกซีทีน เซอทราลีน และฟลูออกซีทีน เป็นต้น
  • การบำบัดร่วมกับคู่ครอง อีกหนึ่งวิธีช่วยแก้ปัญหาหลั่งเร็ว โดยนักบำบัดจะให้เปิดใจร่วมกับคู่ครอง พูดถึงปัญหาของทั้งสองฝ่าย และแนะนำแนวทางในการแก้ปัญหา หรือให้ฝ่ายหญิงช่วยสำเร็จความใคร่ให้แก่คู่ครอง เพื่อเป็นการลดปัญหาหลั่งเร็วในเพศชาย

นอกจากนี้จะลดปัญหาหลั่งเร็วยังสามารถใช้วิธีการออกกำลังกาย และบริหารกล้ามเนื้อร่วมด้วยได้เช่นกัน เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และช่วยให้เกิดการหลังได้ช้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ท่า Woman on top จะเป็นท่าที่ช่วยให้ผู้ชายรู้สึกผ่อนคลาย และสามารถควบคุมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในส่วนนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดปัญหาหลั่งเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ