ทุกคนจะต้องเคยประสบกับเลือดกำเดาไหลอย่างแน่นอน แต่หลายท่านอาจจะมองว่า เลือดกำเดาไหลเป็นเพียงอาการปกติ ที่เกิดขึ้นได้จากเลือดฝอยในจมูกแตก เกิดจากการแคะขี้มูกมากเกินไป หรือเกิดจากอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น แต่ความจริงแล้วสาเหตุเลือดกําเดาไหล สามารถบ่งบอกได้ถึงโรคร้ายแรงบางชนิด ดังนั้นคุณควรจะทำความรู้จักรัตตินันท์กับสาเหตุของการเกิดเลือดกำเดาไหลให้มากขึ้น เพื่อรู้เท่าทันโรคต่าง ๆ และยังสามารถใช้ในการประเมินอาการของตนเองได้อีกด้วย
สาเหตุเลือดกําเดาไหล เลือดกำเดาไหลคืออะไร ?
เลือดกำเดาไหล หรือ Epistaxis จะเป็นสภาวะที่เลือดไหลออกมาทางจมูก ซึ่งจะสามารถแบ่งออกมาได้ทั้งหมด 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ภาวะเลือดออกมาจากทางจมูกด้านหน้า ซึ่งอาการนี้มักจะไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก และภาวะเลือดออกมาจากทางจมูกด้านหลังหรือโพรงจมูก ซึ่งภาวะนี้จะมีเลือดออกเยอะกว่าทางด้านหน้า เนื่องจากจมูกด้านหลังจะมีเส้นเลือดที่ใหญ่กว่า และยังอาจจะทำให้เลือดออกจากทางปากได้อีกด้วย ดังนั้นหากคุณไม่รู้ว่ามีเลือดออกมาจากโพรงจมูกด้านหลัง อาจจะทำให้คุณกลืนลงไป และสุดท้ายจะส่งผลให้คุณอาเจียนเป็นเลือด หรือหากเลือดลงปอดจะเกิดอาการไอเป็นเลือดได้เลยทีเดียว
สาเหตุเลือดกําเดาไหล เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
- เลือดกำเดาไหลจากความผิดปกติของร่างกาย
สำหรับภาวะนี้จะเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นโรคเลือด ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เลือดออกง่าย หยุดยาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นได้ตามเยื่อบุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เยื่อบุจมูก หรือไรฟัน อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคตับ หรือผู้ที่ได้รับยาประเภทละลายลิ่มเลือดต่าง ๆ จะเป็นสาเหตุเลือดกําเดาไหลได้มากกว่าปกติ
- เลือดกำเดาไหลจากภาวะโรคในจมูก
ซึ่งอาจจะเกิดได้จากก้อนเนื้อในจมูก หรือก้อนเนื้องอกบริเวณหลังโพรงจมูก รวมทั้งการติดเชื้อต่าง ๆ ที่ทำให้มีอาการคัดจมูก หรือจามร่วมด้วยจนทำให้เส้นเลือดฝอยแตก จนทำให้เกิดเลือดกำเดาไหลออกมา และอีกหนึ่งสาเหตุ คือ การได้รับอุบัติเหตุบริเวณจมูกหรือใบหน้า ทำให้กระดูกหัก ผนังจมูกคด ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุเลือดกําเดาไหลได้เช่นกัน
สัญญาณเตือนโรคต่าง ๆ จาก สาเหตุเลือดกําเดาไหล
- ความผิดปกติทางกายวิภาค จะมีสาเหตุมาจากช่องจมูกคด หรือมีกระดูกงอกผิดที่ รวมทั้งการมีรูทะลุที่ทำให้เกิดความไม่สมดุล สำหรับอาการของความผิดปกติทางกายวิภาคมักจะมีเลือดออกในจมูกข้างเดิม หรือมีความช้ำในจุดผนังกั้นช่องจมูกคด เป็นต้น
- อาการอักเสบในโพรงจมูก จะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ รวมทั้งการใช้เครื่องอัดอากาศขณะนอนหลับด้วยเช่นกัน โดยอาการเบื้องต้นจะมีเลือดไหลออกปะปนมากับน้ำมูก
- เนื้องอก จะมีสาเหตุมาจากโรคหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง หรือเนื้องอกชนิดที่ไม่ร้ายแรงที่มีเส้นเลือดมาเลี้ยง จะเกิดในจมูกหรือหลังโพรงจมูก โดยลักษณะอาการจะมีเลือดออกเป็นบางครั้ง หรือมีเลือดออกจมูกในปริมาณที่มาก ดังนั้นควรจะเข้ารับการวินิจฉัยด้วยการส่องกล้องตรวจโพรงจมูก หรือเอกซเรย์เพื่อวินิจฉัยโรคอีกครั้ง
เลือดกำเดาไหล มีวิธีการห้ามเลือดอย่างไรบ้าง
- ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น หรือห่อน้ำแข็ง นำมาวางไว้บริเวณสันจมูก
- ไม่พ่นจมูก สั่งน้ำมูก หรือแคะจมูก เพราะอาจจะทำให้เลือดกำเดาไหลมากขึ้นกว่าเดิม
- ถ้าหากมีเลือดกำเดาไหลในปริมาณมาก จนทำให้ลงปากหรือคอ ให้คายเลือดออกมาและห้ามกลืนเลือดโดดเด็ดขาด และห้ามนอนราบกับพื้น ไม่เงยหน้าขณะที่เลือดกำเดายังไหลอยู่ เพราะอาจจะทำให้คุณกลืนเลือดกำเดาลงไปแบบไม่รู้ตัว เพราะหากเลือดลงกระเพาะอาจจะก่อให้เกิดความระคายเคือง จนทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา อย่างเช่น อาเจียน เป็นต้น
ถึงแม้ว่าเลือดกำเดาไหลจะเป็นอีกหนึ่งอาการที่สามารถพบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงอันตรายเท่าที่ควร แต่ในความเป็นจริงแล้วสาเหตุเลือดกําเดาไหล จะสามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากคุณเลือดกำเดาไหล หรือพบคนใกล้ชิดเลือดกำเดาไหล ห้ามชะล่าใจอย่างเด็ดขาด