ทุกท่านจะต้องเคยพบเจอกับอาการหูอื้ออย่างแน่นอน ซึ่งหูอื้อ มีเสียงในหู หรือมีเสียงดังในหู ถือเป็นอาการที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วอาการหูอื้อจะทำให้คุณได้ยินเสียงที่ลดลง ความชัดของเสียงลดลง หรือบางท่านอาจจะได้ยินเสียงดังมาจากด้านในรูหู ไม่ว่าจะเป็น เสียงหึ่ง ๆ เสียงวี้ด ที่คล้ายคลึงกับแมลงวันหรือเสียงตุบ ๆ ที่เป็นเสียงคล้ายคลึงกับการเต้นของชีพจร เป็นต้น แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ยินเสียงเหล่านี้ หรือบางท่านอาจจะได้ยินแต่ไม่ได้ทำให้เกิดความรำคาญหรือรบกวนเท่าไหร่นัก แต่ต้องบอกก่อนว่าอาการหูอื้อบางชนิดจะมีอันตราย แต่บางชนิดจะไม่อันตราย
ลักษณะของเสียงที่คุณได้ยินหากมี อาการหูอื้อ
- เสียงหึ่ง ๆ อาการหูอื้อที่จะเป็นเสียงรบกวนที่มีความถี่ค่อนข้างต่ำ หลายท่านจึงไม่เห็นว่าให้ความรบกวนเท่าไหร่นัก โดยเสียงประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นจากน้ำในหูไม่เท่ากัน ในบางครั้งอาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนร่วมด้วย
- เสียงลม อาการหูอื้อแบบได้ยินเสียงลม จะเกิดจากการทำงานของท่อปรับความดันในหูผิดปกติ
- เสียงวี้ดแหลม ๆ คล้ายกับมีแมลงบินอยู่ในหู จะเป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง หลาย ๆ ท่านจะรำคาญเสียงนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งเสียงลักษณะนี้จะเกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน ที่มีสาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้นและการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน หรืออาจจะเกิดขึ้นได้ในเวลาที่ได้ยินเสียงดังมาก เช่น เสียงระเบิด เสียงพลุ เสียงประทัด รวมทั้งการผ่าตัดทางสมองหรือการผ่าตัดหูที่อาจจะทำให้กระทบกระเทือนไปที่ประสาทหูได้เช่นกัน การใช้ยาบางประเภทก็มีผลข้างเคียงในส่วนนี้ อย่างเช่น ยาขับปัสสาวะบางชนิด หรือยาลดอาการอักเสบบางกลุ่ม
- เสียงตุบ ๆ หรือเสียงที่คล้ายกับจังหวะการเต้นของชีพจร สำหรับเสียงในลักษณะนี้อาจจะเกิดจากเนื้องอกในช่องหู หรือเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งจะมีภาวะบางอย่างที่ทำให้เลือดในร่างกายเพิ่มขึ้น ดังนั้นหัวใจจะต้องบีบตัวแรงขึ้น จึงส่งผลให้เกิดเสียงดังในหูได้ เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะตั้งครรภ์ ไทรอยด์เป็นพิษ
สาเหตุอาการหูอื้อ
ต้องบอกเลยว่าอาการหูอื้อเป็นอีกหนึ่งอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเป็นอย่างมาก จะมีทั้งอาการหูอื้อแบบไม่เป็นอันตราย และอาการหูอื้อแบบเป็นอันตราย ดังนั้นคุณควรจะสังเกตตนเองให้ดีว่า มีอาการหูอื้อร่วมกับอาการข้างต้นหรือไม่ โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้
- หลังว่ายน้ำเสร็จอาจจะทำให้เกิดอาการหูอื้อได้เช่นเดียวกัน ในกรณีนี้จะเกิดจากขี้หูอุดตัน
- อาการหูอื้อจากที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน
- อาการหูอื้อ ที่เป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด อย่างเช่น ยาต้นการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาแก้แพ้ แอสไพริน ซูโดเฟดรีน ฟูโรซีไมด์ คลอโรควิน หรือ ดิริโทรมัยซิน
- หากมีอาการหูอื้อร่วมกับไข้หวัดหรือเจ็บคอ จะเกิดจากสาเหตุท่อยูสเตเชีย
- ถ้ามีอาการหูอื้อร่วมกับเวียนศีรษะหรือบ้านหมุน จะเกิดจากโรคเนียส์ หรือโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โรคหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน และโรคเนื้องอกประสาทหู เป็นต้น
- อาการหูอื้อร่วมกับนอนไม่หลับ หรือมีอาการซึมเศร้า อาจจะเกิดจากความวิตกกังวลทั่ว ๆ ไป โรคอารมณ์แปรปรวน หรือโรคซึมเศร้า
- หากใครไม่มีอาการต่าง ๆ ร่วมด้วย แต่มีอาการหูอื้อโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเกิดจากมะเร็งโพรงหลังจมูก หรือเนื้องอกในสมอง
สำหรับอาการหูอื้อจะเป็นอาการที่สามารถรักษาได้ เพียงแต่คุณจะต้องรู้สึกสังเกตตนเองให้ดีเสียก่อน หากพบว่าตัวเองมีอาการหูอื้อร่วมกับอาการอื่น ๆ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยทันที เนื่องจากหากคุณปล่อยไว้นานเข้า จะกลายเป็นอาการหูอื้อเรื้อรังได้ แต่หากคุณได้รับการรักษาแบบทันท่วงทีสามารถหายขาดได้เช่นกัน อีกทั้งคุณยังต้องดูแลตนเองให้ดี ด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่เสียงดัง หรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็สามารถลดปัญหาหูอื้อได้เช่นกัน