รู้เท่าทัน โรคหนองในเทียม เกิดจากสาเหตุใด มีวิธีการรักษาได้อย่างไร

หากพูดถึงโรคหนองในเชื่อว่าทุกท่านจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน แต่หากพูดถึงโรคหนองในเทียมหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก ซึ่งโรคหนองในเทียมจะเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และสามารถติดต่อได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ในส่วนลักษณะของอาการ จะมีอาการคล้ายคลึงกับโรคหนองใน หรือโรคหนองในแท้

เพียงแต่จะเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส เชื้อรา รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียประเภทอื่น ๆ แต่โรคหนองในเทียมนั้น จะไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคหนองในแท้ หรือเชื้อ Neisseria Gonorrhoeae เพราะส่วนใหญ่แล้วที่พบโรคหนองในเทียมจะสามารถพบในเชื้อแบคทีเรีย Chlamydis Trachomatis และเชื้อยูเรียพลาสม่าสายพันธุ์ Ureaplasma Urealyticum ในส่วนของอาการนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจน จึงทำให้ไม่สามารถเข้ารับการรักษาดูดไขมันที่ไหนดีได้อย่างทันท่วงที

ลักษณะอาการโรคหนองในเทียมในเพศชาย

  • เกิดอาการระคายเคืองหรือเกิดอาการคันบริเวณท่อปัสสาวะ
  • หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอักเสบ
  • รู้สึกปวด แสบร้อน หรือเจ็บขณะปัสสาวะ
  • มีของเหลวสีขาว หรือหนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
  • รู้สึกปวด หรือมีอาการบริเวณลูกอัณฑะ

ลักษณะอาการโรคหนองในเทียมในเพศหญิง

  • ปวดท้องน้อยขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์
  • รู้สึกเจ็บ หรือมีอาการแสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • รู้สึกแสบ หรือคันบริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศ
  • ตกขาวมามากผิดปกติ ตกขาวเป็นมูกปนหนอง ส่งกลิ่นที่ค่อนข้างเหม็น
  • เลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์

การป้องกันและการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหนองในเทียม

สำหรับวิธีการป้องกันโรคหนองในเทียมที่ได้ผล และถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของการมีเพศสัมพันธ์ เพราะการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันหรือไม่สะอาด จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียมได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นไปดูวิธีการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหนองในเทียมกันเลยว่า มีวิธีการอย่างไรบ้าง

  • เลือกใช้ถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐาน และจะต้องสวมใส่ถุงยางอย่างถูกวิธี
  • ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • สวมถุงยางอนามัยขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์ในทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะเพศ หรือทวารหนักก็ตาม
  • ไม่ใช้อุปกรณ์เสริมขณะมีเพศสัมพันธ์ อย่างเช่น Sex Toy
  • ตรวจสุขภาพ รวมทั้งตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ

แนะนำขั้นตอนการรักษาโรคหนองในเทียม

หากใครที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคหนองในเทียมตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะต้องเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาโดยด่วน ซึ่งหากคุณเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ แพทย์จะต้องซักประวัติ และสอบถามอาการเบื้องต้นเสียก่อน รวมไปถึงพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายร่วมกับผู้เข้าตรวจ และหลังจากนั้นแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างของสารคัดหลั่ง ซึ่งการเก็บตัวอย่างจะสามารถทำได้ทั้งหมด 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่ การเก็บตัวอย่างในบริเวณที่มีการร่วมเพศ และการเก็บตัวอย่างจากปัสสาวะ เพื่อที่จะทำการตรวจหาเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคหนองในเทียม ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้คู่นอนของคุณเข้ารับการตรวจด้วย เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคกลับมาอีกครั้ง

ในส่วนของการรักษา แพทย์จะทำการเลือกใช้ชนิดยา รวมทั้งกำหนดปริมาณของยาตามตำแหน่งที่ติดเชื้อ สำหรับผู้ที่เพิ่งติดเชื้อในขั้นเริ่มต้น แพทย์จะรักษาโดยให้ผู้ป่วยรับประทานยาปฏิชีวนะ ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อโรคหนองในเทียม ซึ่งยานี้จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่สำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อหนองในเทียมขั้นรุนแรง แพทย์จะต้องใช้วิธีการรักษาด้วยการฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือด เนื่องจากการใช้ยาปฏิชีวนะจะไม่สามารถบรรเทาอาการของโรคได้นั่นเอง และต้องบอกเลยว่าโรคหนองในเทียมจะไม่สามารถหายเองได้ ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

สำหรับโรคหนองในเทียมจะเป็นอีกหนึ่งโรคที่ทุกท่านมีความเสี่ยงเหมือนกันทั้งหมด เนื่องจากโรคนี้จะเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และยังสามารถติดต่อได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอีกด้วย ดังนั้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การป้องกันระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งต้องรักษาความสะอาดทั้งก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อ แต่หากใครที่เป็นโรคนี้จะต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพื่อป้องกันการติดเชื้อขั้นรุนแรง